สำหรับฤดูกาล Spring/Summer 2025 นี้ ถือว่าเป็นคอลเล็กชั่นครบรอบ 1 ปีการดำรงตำแหน่งหัวเรือ Gucci ของ Sabata De Sarno จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นหลากหลายองค์ประกอบซึ่งหลอมรวมมาจากดีเทลต่างๆ ที่เขาหลงใหล อย่างงานเทเลอริ่ง ชุดชั้นใน เครื่องหนัง พร้อมตอกย้ำโค้ดใหม่ของแบรนด์อย่างสีแดงและซิลูเอตแบบยุค 60s จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง แอลได้รวบรวมมาให้ทุกคนอินกับคอลเล็กชั่นนี้ยิ่งขึ้นกว่าเดิมแล้ว
Down-to-Earth Dream
ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน-ก่อนที่ซาบาโตจะเผยโฉม New Gucci ในยุคของตน เขาได้กล่าวกับสื่อว่า “เป็นคนเรียลมาก” คล้ายจะบอกใบ้ว่า Gucci ในยุคของเขาจะให้น้ำหนักกับแฟชั่นที่จับต้องได้มากกว่างานโชว์จินตนาการสุดแฟนตาซี แน่ละว่าผ่านไป 1 ปี เขารักษาสัญญานั้นและมอบทุกชิ้นที่ใส่ได้จริงตราบจนคอลเล็กชั่นล่าสุดและสุดท้ายที่ Gucci ซาบาโตส่งทุกสิ่งที่เขาโปรดปราน ไม่ว่าจะเป็นงานเทเลอร์สุดเนี้ยบ ชุดชั้นใน งานหนัง และเค้าโครงยุค ’60s ที่ผูกโยงเข้ากับมรดกของแบรนด์ ไล่มาตั้งแต่ลุคแรกที่เหมือนชุดวอร์มแต่กลับเป็นงานเทเลอร์เรียบคลีน เสื้อกล้ามกับกางเกงยีนส์ทรงโคร่งกับโอเวอร์โค้ต ไปจนถึงชุดหนังแน่นหนาแต่จับระบายช่วงสะโพก
Summer Sunset
หลังจากตอกย้ำ ขีดสองเส้น คาดไฮไลต์ซ้ำๆ ทุกคอลเล็กชั่น ในที่สุดหนึ่งในความสำเร็จที่ซาบาโตยินดียิ่งก็คือทำให้สีแดงอังโกราฮิตไปทั่วโลก แม้บางครั้งคนใส่มิรู้ด้วยซ้ำว่าต้นตอมาจาก Gucci และหลังจากทุ่มเทดึงภาพคลาสสิกกลับมาสวมให้แบรนด์ผ่านเฉดสีไร้กาลเวลาอย่างขาว ดำ เทา ซัมเมอร์นี้ซาบาโตขอแต้มเฉดสีเขียวฟลูออเรสเซนต์สด (หรือ Brat Green ตามสีเขียวแจ๋บนปกอัลบั้ม Brat ของ Charlie XCX ที่กลายเป็นสีฮิตประจำซัมเมอร์ที่แล้ว) ที่เด้งออกมาจากเฉดสีพระอาทิตย์ตกดินอย่างสีแดงอังโกราและสีส้ม ให้มันรู้กันไปว่าสีสะท้อนแสงก็คลาสสิกได้
Star Heritage
เป็นฤดูกาลที่ Gucci ขยันส่งแอ็กเซสเซอรี่ส์ทั้งเก่าและใหม่มาให้เลือกสรร ตัวเมนในคอลเล็กชั่นคือ Gucci Bamboo 1947 กระเป๋าหูหิ้วไม้ไผ่ในตำนาน ที่นอกจากรุ่นคลาสสิกแล้วยังได้ศิลปินญี่ปุ่น Nami Yokoyama มาแต่งแต้มบางใบให้เป็นกระเป๋าสุดยูนีกที่มีใบเดียวในโลกฉลอง 60 ปีการเปิดตัว Gucci ที่ญี่ปุ่น และโมทีฟไม้ไผ่ยังกลายเป็นเครื่องประดับชิ้นสเตตเมนต์ทั้งสร้อยคอ กำไลข้อมือ จนถึงกำไลรัดต้นแขนบนชุดกระโปรงคลีนคัต คารวะผลงานสลีกเซ็กซี่ของ Tom Ford ในยุค ’90s ขณะที่ Jackie 1961 และ Jackie กระเป๋ามาแรงในยุคซาบาโตปรากฏในโทนสีอาทิตย์อัสดง ส่วน Gucci 73 กระเป๋าทรงบัคเก็ตประดับโมทีฟฮอร์สบิตยักษ์ด้านข้างล้อไปกับ Horsebit 1953 โลเฟอร์รุ่นก่อร่างสร้างแบรนด์ที่โดนจับเล่นแร่แปรธาตุเป็นเวอร์ชั่นต่างๆ ทั้งแพลตฟอร์ม แองเคิลบู๊ต รองเท้าบัลเลรินา และครีปเปอร์ส้นตัน
Head Level
ภาพอดีตสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ แจ็กเกอลีน เคนเนดี สวมแว่นกันแดดโอเวอร์ไซซ์ของ Gucci แมตช์กับชุดสไตล์โบฮีเมียนเป็นเซ็นเตอร์บนมู้ดบอร์ดในซีซั่นนี้ จึงได้เห็นมินิแจ็กกี้เดินสับขากันเป็นแถวใน Gucci Flora Foulard หรือผ้าพันคอลายดอกที่ใช้เป็นผ้าโพกศีรษะในลวดลายออริจินัลของ Vittorio Accornero de Testa อิลลัสเตรเตอร์ชาวอิตาลีที่เกิดช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยเป็นลวดลายบูเกต์ดอกไม้ 9 ช่อบนพื้นขาวล้อมกรอบสีตัดกัน ซึ่งมีทั้งโทนสีขรึมคลาสสิกและพาเลตต์สีประจำฤดูกาล โดยเฉพาะพื้นสีแดงก่ำ Rosso Ancora ที่ซาบาโตตั้งชื่อเพราะอยากให้คนปรารถนา Gucci อีกครั้งและอีกครั้ง
Jackie’s Vibe
New Gucci เล่นอยู่กับสไตล์ใส่ได้จริงแต่ดูหรูหรา หรือ ‘casual grandeur’ คำที่ Harold Macmillan นายกรัฐมนตรีอังกฤษในช่วงปี 1957-1963 อธิบายสไตล์โก้แบบชาวยุโรปผสมกับความสบายสไตล์อเมริกันชนของ Jacqueline Kennedy แฟชั่นไอคอนที่ใส่ Gucci บ่อยจัดในยุค ’50s จนถึง ’60s ซึ่งช่วยกระพือชื่อแบรนด์จากอิตาลีให้ครองใจสายลักชัวรี่ทั่วโลก และนิยามความเป็นแจ็กกี้ยังช่วยย้ำเตือนให้ซาบาโตไม่ลืมสิ่งที่เขาปรารถนาจะทำ “เสื้อผ้าที่ทำให้คนใส่ ได้ใช้ในชีวิตจริง ได้เห็นเสื้อผ้าของฉันบนตัวคนจริงๆ” ที่แปรเปลี่ยนเป็นลุคต่างๆ บนรันเวย์ ไม่ว่าจะเป็นสปอร์ตแวร์ในผ้าตัดชุดผู้ชายให้ผู้หญิงใส่ กางเกงสแล็กผ่าหน้าใส่กับสนีกเกอร์ กระโปรงทรงดินสอกับสลิมโค้ตตกแต่งดีเทลคัตเอาต์ เสื้อผ้าเลดี้ไลค์สไตล์ Gucci ยุค Frida Giannini ในผ้าราฟเฟีย ไปจนถึงโอเวอร์โค้ตสีเขียวโอลีฟคมกริบตกแต่งริ้วพู่เมทัลลิก
