Thursday, November 6, 2025

ซื้อบริการทางเพศผิดจริงไหม? ประเด็นที่สังคมตั้งคำถามหลังการออกจาก THE BOYZ ของ จูฮักนยอน

กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในชั่วข้ามคืน เมื่อ ONE HUNDRED ต้นสังกัดของ THE BOYZ ประกาศถึงการถอนตัวออกจากวงของ จูฮักนยอน หลังจากก่อนหน้านี้พักงานไปด้วยเหตุผลส่วนตัว และในเวลาไม่นานก็ได้มีสำนักข่าวออกมาเผยว่า จูฮักนยอนได้พบปะกับนักแสดง AV ที่บาร์ในญี่ปุ่น ก่อนทั้งคู่จะร่วมดื่มสังสรรค์กันอย่างใกล้ชิดจนเช้า เรื่อยไปจนถึงรายงานข่าวต่อมาที่เผยว่าได้มีการจ่ายเงินเพื่อเชิญชวนด้วย ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวในภายหลัง พร้อมยืนหยัดที่จะทวงความยุติธรรมให้ตนเองจากการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากต้นสังกัด

จากรายงานข่าวดังกล่าวนำไปสู่การถกเถียงกันถึงประเด็น ‘การซื้อบริการทางเพศ’ เนื่องจากการจ่ายเงินเพื่อชักชวนนั้นเข้าข่ายขัดกับกฎหมายของเกาหลีว่าด้วยพระราชบัญญัติการลงโทษการค้าประเวณี และมีโทษตามกฎหมายแม้จะกระทำการในต่างแดนก็ตาม แต่ในขณะเดียวกัน บางฝ่ายก็ได้มีความคิดเห็นว่า กฎหมายนี้มีความล้าหลัง หรือไม่? ในยุคที่ผู้คนพยายามผลักดันให้อาชีพ Sex Worker ถูกกฎหมายและได้รับการคุ้มครองอย่างถูกต้องเสียที ขณะการเสียเงินเพื่อแลกกับบริการทางเพศนั้นถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่ต่างฝ่ายต่างก็มี Consent หรือความยินยอมร่วมกัน ไม่ใช่การล่อลวงหรือขัดขืนใจ

ขณะเดียวกัน นอกเหนือจากเรื่องของกฎหมายการค้าประเวณีที่ถูกหยิบมาถกเถียงกันแล้ว ยังมี ‘กรอบของการเป็นไอดอล’ ที่ครอบประเด็นนี้เอาไว้อีกหนึ่งชั้น เมื่อผู้คนเริ่มตั้งคำถามว่า แล้วเส้นแบ่งขอบเขตความประพฤติของไอดอลนั้นอยู่ที่ตรงไหน หากในวันหนึ่ง Sex Worker ถูกกฎหมาย การที่ไอดอลไปใช้บริการจะเหมาะสมหรือไม่ แล้วไอดอลจะมีทางออกต่อความต้องการทางเพศของตนอย่างไรบ้าง ท่ามกลางค่านิยมบางส่วนในประเทศที่ยังยึดติดกับชีวิตส่วนตัวของไอดอล และวาดกรอบการเป็น ‘ไอดอลในอุดมคติ’ อยู่

นอกจากนี้ การที่สื่อต่างๆ เพ่งประเด็นการนำเสนอไปที่อาชีพเดิมของฝ่ายหญิงอย่าง ‘นักแสดง AV’ ยังชวนให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการตีตราคุณค่าของแต่ละบุคคลอีกด้วยว่า แท้จริงแล้ว ผู้หญิงกลับถูกประเมิณค่าด้วยเพียงอาชีพที่ครั้งหนึ่งเธอเคยประกอบเพื่อหาเลี้ยงชีพเองหรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธออำลาวงการและผันตัวมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์มาหลายปีแล้วก็ตาม

ถึงอย่างนั้น แม้หลายฝ่ายจะมองว่าไม่ได้ขัดต่อหลักศีลธรรม แต่ในเมื่อข้อกฎหมายได้มีการกำหนดเช่นนี้แล้ว การหลีกเลี่ยงไม่ให้ผ่าผืนข้อกฎหมายก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำใช่หรือไม่ จนเกิดเป็นคำถามที่ว่า ระหว่าง ศีลธรรม ค่านิยม และ ผิดกฎหมาย อะไรมีน้ำหนักมากกว่ากัน เมื่อขีดเส้นแบ่งของศีลธรรมนั้นขึ้นอยู่กับการตีความส่วนบุคคล ค่านิยมก็ถูกส่งต่อกันหลายทอดจนอาจบิดเบี้ยวได้ ขณะที่ข้อกำหนดตามกฎหมายเองก็ตามยุคสมัยไม่ทันและควรปรับเปลี่ยนได้อยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังทาง จูฮักนยอน ก็ได้ออกมาขอโทษพร้อมอธิบายประเด็นดังกล่าวว่า ตลอดจนปฏิเสธข่าวลือที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ผ่านช่องทางสตอรี่ของอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “สวัสดีครับ จูฮักนยอนครับ ก่อนอื่นผมต้องขอโทษที่สร้างความกังวลใจให้กับแฟนๆ รวมถึงทุกคนที่ตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้นด้วยนะครับ เรื่องที่ในรุ่งเช้าของวันที่ 30 พฤษภาคม ผมได้ร่วมดื่มสังสรรค์กับคนรู้จักนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ได้มีการซื้อขายบริการทางเพศดังที่ระบุในรายงานข่าว หรือการกระทำผิดกฎหมายใดๆ ตามข่าวลือที่ออกมา ผมได้ทบทวนถึงการกระทำของตนอย่างถี่ถ้วนแล้วและอยากแสดงความขอโทษจากใจจริงถึงทุกคนที่ตกใจกับเหตุการณ์นี้ครับ”

และในเวลาต่อมาก็ได้ออกมาโพสต์ยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองอีกครั้ง โดยย้ำว่าตนได้ร่วมสังสรรค์กับฝ่ายหญิงจริง แต่ไม่มีการค้าประเวณีใดๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น หากมีหลักฐานว่าเขากระทำดังกล่าวก็นำมาแสดงได้เลย ทั้งยังเผยว่าถูกต้นสังกัดบังคับให้ออกจากวงอย่างไม่เป็นธรรมพร้อมเรียกค่าปรับกว่าสองพันล้านวอน และจะพยายามต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของตนเองอย่างถึงที่สุด

Latest Posts

Don't Miss