การถ่ายทอดศิลปะและการตกแต่งเชิงศิลป์แห่งจินตนาการนับเป็นอีกหนึ่งพรมแดนแห่งการสร้างสรรค์ในโลกของนาฬิกา ที่ช่วยสร้างสีสันให้กับนาฬิกาข้อมือผ่านหลากยุคหลายสมัยเรื่อยมา และหลายต่อหลายครั้งที่ผลงานเหล่านี้ได้กลายเป็นงานหัตถศิลป์ชิ้นเอกที่ทรงคุณค่าแก่การชื่นชม เรียนรู้ และสะสม เพื่อมอบเป็นมรดกที่มีความหมาย ทั้งยังสวยงามน่าชมอย่างเหนือกาลเวลา
Dreams come true
เฮาส์ผู้รังสรรค์งานศิลป์บอกเวลาอย่าง Hermès ได้สืบทอดเรื่องราวและความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดความฝัน จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์มาสู่ผลงานนาฬิกาข้อมือที่เปรียบเสมือนศิลปวัตถุอันเปี่ยมด้วยคุณค่าของแบรนด์มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านคอลเล็กชั่นเรือนเวลารุ่นต่างๆ ที่ต่างก็สะท้อนถึงวัฒนธรรม รสนิยม และความฝันของผู้คนในแต่ละยุคสมัย เช่นเดียวกับในปัจจุบันที่แบรนด์เองยังคงสืบทอดมรดกเชิงศิลป์และความเชี่ยวชาญเหล่านี้ไว้ผ่านเรือนเวลารุ่นเด่นๆ ที่ชวนให้ผู้พบเห็นต่างหลงใหลกับศิลปะเครื่องบอกเวลาเหล่านี้ได้ไม่ยาก เช่นการเปิดตัวหลากหลายผลงานศิลป์รุ่นเด่นในปีนี้อย่าง Arceau Rocabar de rire ที่ถ่ายทอดภาพเคลื่อนไหวของม้าแสนขี้เล่นโดยแลบลิ้นหยอกเย้ากับเจ้าของหรือผู้สวมใส่ได้ตามความต้องการผ่านการควบคุมโดยปุ่มกดบนตัวเรือนขณะที่ภาพของม้าก็ได้แรงบันดาลใจมาจากผ้าพันคอไหม Rocabar de rire ที่มีความพิเศษจากการตกแต่งด้วยการต่อลายขนม้า ผสมผสานกับงานแกะสลักและการวาดภาพย่อส่วน ในรุ่นนี้แบรนด์ได้เลือกตัวเรือนของ Arceau ที่มีความกลมมนและโค้ง รวมถึงสัญลักษณ์ของหูเชื่อมสายแบบอสมมาตรที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากโกลนม้าอีกด้วย


ภายใต้ภาพเชิงสัญลักษณ์ของม้าแห่ง Hermès นาฬิกาข้อมืออีกหนึ่งรุ่นจากเฮาส์ยังได้ถ่ายทอดถึงการตีความใหม่ในสไตล์ของม้าที่เต็มไปด้วยสีสัน และได้ต้นแบบแห่งจินตนาการมาจากผลงานของนักออกแบบ Dimitri Rybaltchenko รวมถึงถ่ายทอดผ่านแนวคิดสร้างสรรค์ราวดั่งฝัน สะท้อนถึงธีมประจำปีนี้ของแบรนด์ที่ว่า Drawn to Craft เพื่อเชื้อเชิญให้เปิดกว้างสู่การเดินทางและค้นพบกับความมหัศจรรย์ครั้งใหม่ๆ อย่างในนาฬิกาข้อมือรุ่น Slim d’Hermès Cheval brossé ที่บนหน้าปัดตกแต่งด้วยภาพของม้าผงาดจากเทคนิคงานแกะสลักบนฐานเพื่อสลักร่องลายที่เรียกกันว่า cliché หรือแผ่นพิมพ์ภาพ พร้อมทั้งการพิมพ์แพดสีสันสดใสเหนือท้องฟ้าอีนาเมลสีฟ้าน้ำเงิน ที่ดูคล้ายกับภาพจินตนาการซึ่งล่องลอยอยู่ระหว่างความฝันและความจริง

เช่นเดียวกับนาฬิกาข้อมืออีก 2 รุ่นอย่างผลงานชวนฝันของ Arceau Hermès locomotion ที่เด่นด้วยศิลปะและความเชี่ยวชาญในการประดับเพชร แสดงออกผ่านรูปทรงโค้งมนและเต็มไปด้วยสีสันอันสดใสบนหน้าปัดที่รังสรรค์อย่างมีมิติ โดยการประยุกต์ใช้ทั้งศิลปะการวาดภาพย่อส่วน และเอกลักษณ์ของลวดลายเส้นดินสอที่ได้กลายมาเป็นภาพวาดพู่กันสีสไตล์ป๊อปอาร์ต ทั้งโทนชมพู เหลือง ฟ้า และเขียว ถ่ายทอดเป็นบรรยากาศบูติกของแบรนด์บนถนนโฟบูร์ก แซงต์-ออนอเร ในกรุงปารีสที่ดูมีมิติและเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา โดยได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานผ้าพันคอไหมของ Ugo Bienvenu ซึ่งสามารถแสดงออกถึงความชำนาญในการรังสรรค์นาฬิกาข้อมือด้วยความวิจิตรโดยแท้ ขณะที่นาฬิกาข้อมือรุ่น Arceau Le temps suspendu ตีความใหม่ให้กับทั้งศิลปะการออกแบบและจักรกล สวยเด่นด้วยหน้าปัดแบบกึ่งสเกเลตันหรือโอเพ่นเวิร์กที่เปิดพื้นที่บางส่วนให้สามารถมองเห็นโมดูล Time suspended อันซับซ้อนของแบรนด์ได้ พร้อมทั้งงานฝีมือการตกแต่งทั้งโทนสีและพื้นผิวของพื้นที่หน้าปัดส่วนอื่นๆ ที่นำเสนอความสวยงามอันกลมกลืนและทันสมัยรับกับบุคลิกของนาฬิกาข้อมือรุ่นนี้ได้ลงตัว


Stylish crafts
จุดบรรจบระหว่างสไตล์ ศิลปะ และงานฝีมือ ยังสามารถถ่ายทอดร่วมกันผ่านนาฬิกาข้อมือจากหลายเมซงชั้นนำของโลกเรือนเวลา ซึ่งนับเป็นการเดินทางมาพบกันของแนวคิดสร้างสรรค์ ความชำนาญด้านเครื่องบอกเวลา และศิลปะของการตกแต่งที่ได้สร้างมิติและมุมมองใหม่ๆ ให้กับการแสดงเวลาได้อย่างไม่มีข้อจำกัด
สไตล์การสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Cartier ได้มอบไว้ด้วยผลงานไอคอนแห่งศิลปะการออกแบบและงานฝีมือที่ไม่เหมือนใคร เช่นในนาฬิกาและเครื่องประดับบอกเวลาอย่าง Panthère Jewellery ที่สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมและการเล่นกับรูปทรงเชิงสัญลักษณ์ เช่นรูปทรงของเสือแพนเตอร์ 3 มิติของนาฬิกาข้อมือ ที่ทั้งดูราวกับมีชีวิตและยังสืบทอดไว้ด้วยมรดกด้านสไตล์ เหมือนกับเจ้าเสือแพนเตอร์ในรูปแบบกำไลข้อมือ 3 มิติ Toi & Moi ที่หัวกำไลข้างหนึ่งประดับด้วยสัตว์สัญลักษณ์ของเมซง และอีกข้างเป็นนาฬิกาพร้อมด้วยหน้าปัดแสดงเวลา ภายใต้โครงสร้างตัวเรือนอันโดดเด่นที่แสดงออกถึงความเชี่ยวชาญในการผสมผสานเรือนเวลาเข้ากับประติมากรรมขนาดย่อส่วนของเสือแพนเตอร์ได้อย่างน่าชม

ไม่ว่าจะเป็นมัดกล้ามเพรียวงาม หรือรายละเอียดอย่างใบหู จมูก และอุ้งเท้าที่เต็มไปด้วยรายละเอียดสมจริง เรือนเวลานี้ยังถือเป็นเครื่องประดับอัญมณีหรูด้วยการประดับเพชรกว่า 1,100 เม็ด โดยช่างฝีมือของเมซงได้บรรจงรังสรรค์ขึ้นตามขั้นตอนอันละเอียดอ่อนของการผลิตเครื่องประดับ ตลอดจนงานฝีมือการขัดตกแต่งพื้นผิว และประดับฝังอัญมณีแบบ Fur setting ที่ต้องใช้ความละเอียดประณีตสูง เช่นกันกับเทคนิคเฉพาะในการพันโลหะรอบออนิกซ์เพื่อให้เกิดรายละเอียดของเส้นขนเล็กๆ รอบลายจุดของเสือแพนเตอร์ที่ดูเป็นธรรมชาติ


นอกจากนี้ยังมีผลงานรุ่น Panthère de Cartier ที่ตีความเสือแพนเตอร์ให้โลดแล่นและมีมิติยิ่งขึ้นกับตัวเรือนและสายลวดลายแอ็บสแทรกต์ผ่านเส้นสายลายพาดกลอนของเสือโคร่งเข้ากับลวดลายอันโดดเด่นของม้าลายที่กลายเป็นภาพกราฟิกอันสง่างาม โดยอาศัยทั้งศิลปะการตกแต่งแล็กเกอร์สีดำและน้ำตาลทองสลับกับการฝังเพชรและสเปสซาร์ไทต์สีส้มและสเหลืองระยิบระยับ ซึ่งต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะของช่างฝีมือ ส่วนหน้าปัดประดับเพชรแบบ snow-setting งดงามไร้ที่ติ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นมรดกเชิงศิลป์และงานฝีมือที่สืบทอดมาอย่างยาวนานและยังคงพัฒนาไปสู่การสร้างสรรค์รูปแบบแห่งงานหัตถศิลป์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

เมซง Bvlgari เองก็ได้ผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านการรังสรรค์นาฬิกาเข้ากับงานฝีมือการทำจิวเวลรี่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งได้รับความสนใจและเป็นที่ติดตามอยู่เสมอ โดยเฉพาะในหมู่คนผู้ซึ่งหลงใหลในศิลปะและหัตถศิลป์อันเปี่ยมด้วยคุณค่าและสุนทรียะความสวยงามที่ไร้กาลเวลา เหมือนกับที่เมซงได้ถ่ายทอดมุมมองใหม่ๆ ด้านงานฝีมืออันชำนาญผ่านผลงานไอคอนนิก อย่าง Serpenti ทั้งในคอลเล็กชั่น Serpenti Seduttori กับศิลปะการออกแบบเชิงนวัตกรรมและคงไว้ด้วยสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงงูอันทรงเสน่ห์และมีพลัง แต่ตีความใหม่เป็นความทันสมัยของสไตล์เครื่องประดับข้อมือ ทั้งตัวเรือนรูปทรงหัวงูเพรียวและโค้งอรชร จนถึงความพิถีพิถันของการออกแบบสายสร้อยข้อมือด้วยลวดลายเกล็ดงู ที่มอบทั้งภาพของความกลมกลืนและสัมผัสของความอ่อนโยนจากการโอบรับเข้ากับข้อมือได้ลงตัว


ในรุ่นนี้ยังติดตั้งด้วยกลไกจักรกลชุดใหม่ที่สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในศิลปะการทำนาฬิกาอีกด้วย ขณะที่คอลเล็กชั่น Serpenti Aeterna ซึ่งเปิดตัวใหม่ก็ได้มอบทั้งสัมผัสของความประณีตเชิงงานช่างศิลป์และความโดดเด่นทั้งในฐานะเครื่องประดับและเรือนเวลาได้เป็นอย่างดี กับการเปลี่ยนแปลงรูปได้ไม่มีสิ้นสุดของสัญลักษณ์ประจำเมซงซึ่งนำมาสู่ไอคอนใหม่แห่งศตวรรษที่ 21 ด้วยรูปทรงสไตล์กำไลข้อมือบอกเวลาได้ ทั้งยังประดับไว้ด้วยเพชร หรือตกแต่งพื้นผิวโลหะล้ำค่าด้วยความเงาวาวเจิดจรัส ซึ่งต่างก็สะท้อนถึงความพิถีพิถันในศิลปะการตกแต่งของเมซงนี้

ความน่าหลงใหลและชวนให้ติดตามเสมอของเหล่าเรือนเวลาแห่งจินตนาการที่รังสรรค์ขึ้นด้วยงานหัตถศิลป์ ไม่เพียงสะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์และสุนทรียะความสวยงามที่สัมผัสได้จากแต่ละผลงานชั้นเลิศนี้ แต่ยังแสดงออกได้ดีถึงคุณค่าอันแท้จริงของนาฬิกาซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการบันทึกไว้ด้วยประวัติศาสตร์ รสนิยม แฟชั่น และวัฒนธรรม ที่ล้วนเป็นต้นกำเนิดของแรงบันดาลใจและแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ต่อไปได้เสมอ

