ณ เวลานี้นักแสดงรุ่นใหม่ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ย่อมต้องมีชื่อของหนุ่ม Timothée Chalamet เพราะที่ผ่านมาเขาร่วมแสดงหนังมากมายที่คว้ารางวัลหลายต่อหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Bones and All (2022), The King (2019), Beautiful Boy (2018), Lady Bird (2017) หรือ Little Women (2019) และในปี 2024 นี้เขาก็เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในวงการภาพยนตร์ด้วยการเป็นนักแสดงชายคนแรกในรอบ 45 ปีที่ติดท็อปหนังที่สร้างรายได้สูงสุดบนบ็อกซ์ออฟฟิศจากเรื่อง Dune 2 และ Wonka
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาเขาจะเพิ่งรับบทและกำลังถ่ายทำหนัง ‘A Complete Unknown’ หนังชีวประวัติของศิลปินระดับตำนานอย่าง Bob Dylan ส่วนภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้าอย่าง Wonka ก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม เขาได้รับคำชมเกี่ยวกับการแสดงที่มีคาริสม่าและรายได้ของหนังก็ทำได้ดีด้วยมูลค่ากว่า 632 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่หนังเรื่อง Dune 2 ก็เพิ่งทำรายได้ทั่วโลกไปแล้วกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ



นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งรายงานใหม่ออกมาที่ตอกย้ำความเป็นนักแสดงแห่งยุคของเขาอีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือการเซ็นสัญญาระยะยาวหลายปีกับ Warner Bros. เพื่อร่วมงานกับสตูดิโอแบบยาวๆ สำหรับโปรเจ็กต์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะเป็นทั้งในฐานะนักแสดงร่วมหรืออาจจะเป็นโปรดิวเซอร์ โดยทางสตูดิโอเองก็เปิดเผยว่า “การร่วมงานกันระหว่างเราในเรื่อง Dune และ Wonka เป็นสิ่งที่พวกเราทำมันอย่างสนุกสนานเลยล่ะ และผลลัพธ์มันก็บอกความสำเร็จด้วยตัวมันเองด้วย พวกเราจึงอยากจะสร้างอนาคตและสำรวจสิ่งต่างๆ ร่วมกัน และพวกเราก็ดีใจมากที่ Timothée เลือกเราเป็นบ้านแห่งความคิดสร้างสรรค์ให้กับเขา”
เรียกได้ว่าจากทุกความสำเร็จหรืองานแสดงทั้งหลายนั้นล้วนแต่สะท้อนให้เห็นว่าเขาเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพและน่าจับตามองต่อไปว่าในอนาคตเขาจะสร้างประวัติศาสตร์อะไรให้กับวงการภาพยนตร์อีก ซึ่งเราเชื่อว่าชื่อของ Timothée Chalamet ก็จะถูกจดจำในฐานะนักแสดงระดับตำนานในอนาคตอย่างแน่นอน