นับเป็นเรื่องราวที่สะเทือนวงการเคป๊อปกันเลยทีเดียว สำหรับมหากาพย์การโต้แย้งกันระหว่างต้นสังกัด HYBE Corporation ที่นำโดยบังชีฮยอก ผู้เป็นประธานบริษัท และมินฮีจิน ซีอีโอของ Ador บริษัทในเครือที่เป็นที่รู้จักกันในนามผู้สร้าง NewJeans ซึ่งจุดเริ่มต้นต้องย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ตัวแทนจากทาง HYBE ออกมากล่าวผ่านสำนักข่าวว่า ผู้บริหารของ Ador นั้นเปิดเผยความลับบริษัทให้กับบุคคลที่ 3 อีกทั้งยังตั้งใจที่จะแยกตัว Ador ออกไปหลังนิวจีนส์ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล
แต่แทนที่ทางฝั่งมินฮีจินจะออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเพียงอย่างเดียว เธอกลับออกมาชี้แจงจุดยืนว่าเรื่องราวทั้งหมดนั้นเกิดจากการลอกเลียนแบบ ซึ่งพาดพิงถึงวง ILLIT, RIIZE, TWS รวมไปถึง BTS อีกด้วย
โดยสำหรับการเมนชั่นถึงวง ILLIT 5 สาวน้องใหม่มาแรงของค่าย Belift Lab ภายใต้ HYBE ว่าเป็นผลงานที่ก๊อปปี้จาก NewJeans เกิร์ลกรุ๊ปที่ดังเป็นพลุแตกตั้งแต่เดบิวต์เมื่อปลายปี 2022 นั้นถูกระบุในจดหมายแถลงว่า ‘ILLIT ลอกเลียนแบบ NewJeans ในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะทั้งทรงผม เมกอัพ คอสตูม ท่าเต้น ภาพถ่าย วิดีโอ หรือแม้แต่การปรากฏตัวตามอีเวนต์ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นถูกมองว่าเป็นสไตล์ของมินฮีจิน’ และย้ำว่า แม้จะอยู่ภายใต้เครือเดียวกัน แต่เธอไม่เคยอนุญาตให้ใครมาเลียนแบบตามเส้นทางความสำเร็จของนิวจีนส์แม้แต่ครั้งเดียว พร้อมทั้งยืนยันว่าการพยายามจะไล่เธอออกจากค่ายไป ไม่ได้ทำให้ปัญหานี้จบลง
และหลังจากนั้น อีกหนึ่งรายงานข่าวที่สร้างประเด็นสุดร้อนแรงได้ออกมาสู่สาธารณะจากทาง Yonhap News โดยมีเนื้อหากล่าวว่า ระหว่างการตรวจสอบเอกสารที่ HYBE เป็นผู้ดำเนินการ พบว่าหนึ่งในนั้นมีหลักฐานของมินฮีจินที่ระบุว่า ประธานบังชีฮยอกคัดลอกความคิดของฉันเพื่อสร้าง BTS นอกจากนี้ จากรายงานการประชุมครั้งล่าสุด มินฮีจินยังอ้างว่า ทั้ง TWS และ RIIZE พวกเขาก็เลียนแบบ NewJeans ด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเรื่องราวครั้งนี้จะจบลงอย่างไร แต่ทางฝั่งแฟนคลับก็มองว่าการที่ผู้บริหาร Ador ออกมากล่าวพาดพิงถึงวงอื่นๆ ไม่ได้ทำให้ความน่าเชื่อถือของเธอเพิ่มขึ้นหรือจะเป็นผลดีแม้แต่น้อย นอกจากนี้ ยังมีความคิดเห็นอีกหนึ่งมุมมองว่า การที่มินฮีจินสามารถสร้างให้นิวจีนส์โด่งดังขึ้นมาได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเงินทุนจาก HYBE Corporation และฐานแฟนคลับที่ติดตามวงในบริษัทนี้อยู่แล้วเช่นกัน รวมถึงอย่างที่ทราบกันดีว่าในตอนนี้ ไฮบ์มีอิทธิพลด้านสื่อที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากเธอแยกตัวทั้งค่ายและนิวจีนส์ออกไปจริงๆ อาจทำให้การคัมแบ็กหรือกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมีปัญหาเพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ เราก็ต้องมาคอยติดตามกันต่อไปว่าเรื่องราวของเหล่าผู้บริหารค่ายจะไปต่อหรือจบลงอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าเหล่าแฟนคลับเองก็คงเป็นกำลังให้กับศิลปินที่ต้องรับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ และจะจับตาดูทุกความเคลื่อนไหวอยู่อย่างใกล้ชิดแน่นอน