“ฉันสนับสนุนให้ผู้คนเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริงโดยใช้ศิลปะและพระพุทธศาสนาเข้ามาช่วย”
หากคุณดูรายการชื่อดังบน Netflix อย่างซีรี่ส์ Queer Eye คุณอาจรู้จักกับชื่อของ Kodo Nishimura (โคโดะ นิชิมูระ) ในฐานะของพระชาวญี่ปุ่นผู้เป็นเมกอัพอาร์ตทิสต์ ซึ่งในรายการนี้เขามีหน้าที่ช่วยเหลือผู้คนให้เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดด้วยการแต่งหน้าและให้คำแนะนำซึ่งเป็นประโยชน์ต่อจิตใจของผู้ต้องการความช่วยเหลือในรายการ แต่มากไปกว่าคำแนะนำและการแต่งหน้าที่ยอดเยี่ยม เบื้องหลังชีวิตของเขายังมีแนวคิดที่น่าสนใจมากมายที่แอลอยากจะชวนคุณมาทำความรู้จักกับพระแต่งหน้าผู้สวมส้นสูงคนนี้ให้มากขึ้นผ่านเรื่องราวต่อไปนี้
Kodo Nishimura เป็นพระผู้เผยแพร่ศาสนา นักเคลื่อนไหวสิทธิด้าน LGBTQIA+ และเป็นเมกอัพอาร์ตทิสต์มือฉมังจากญี่ปุ่น ซึ่งเขาเคยมีโอกาสร่วมเป็นครูสอนในคลาสเวิร์กช็อปสอนแต่งหน้ามากมาย รวมทั้งเป็นช่างแต่งหน้าให้กับการประกวดนางงามขื่อดังอย่างเวที Miss Universe นอกจากนี้แล้วเขายังเคยเขียนหนังสืออัตชีวประวัติของตนเองอย่างหนังสือเรื่อง This Monk Wears Heels: Be Who You Are ด้วยเช่นกัน
แรกเริ่มเขาเติบโตมาในวัดเพราะครอบครัวของเขาก็เป็นพระและอยู่ที่วัด แต่เขาไม่เข้าใจและไม่ชอบความเป็นพุทธด้วยซ้ำ เขาตั้งคำถามกับทั้งวินัยของพระที่ต้องปฏิบัติหลายสิ่งหลายอย่างและเขาก็ต้องการเป็นอิสระ ยิ่งเมื่อเติบโตขึ้นเขาก็รู้ตัวว่าเพศสภาพของเขาไม่ใช่ทั้งชายและหญิง เขาก็ยิ่งอึดอัดใจเพราะรู้สึกไม่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม เขาจึงแยกตัวออกจากเพื่อนและมองหาเส้นทางใหม่ๆ ในชีวิตจนได้ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา เขากลับค้นพบตัวตนและเริ่มคิดว่าการเป็นตัวของตนเองไม่ใช่เรื่องผิดและไม่จำเป็นจะต้องซ่อนไว้ คนเราสามารถทำตามใจต้องการได้ ยิ่งไปกว่านั้นแล้วในช่วงเวลาเดียวกันนี้เขาก็เริ่มสนใจการแต่งหน้าอีกด้วย ตัวตนของ Kodo ในช่วงวัยมหาลัยนี้จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและเป็นจิตวิญญาณอันเป็นอิสระ
“เด็กผู้ชายก็ถูกผูกติดอยู่กับสีฟ้า ส่วนเด็กผู้หญิงก็อยู่กับสีชมพู แต่ฉันรู้สึกว่าฉันคงจะเป็นสีม่วงที่มาจากชมพูและฟ้ารวมเข้าด้วยกันมากกว่า”
เขาทุ่มเทความสนใจไปกับการแต่งหน้ามาโดยตลอด จนถึงจุดหนึ่งเมื่อเริ่มเติบโต เขากลับเริ่มคิดและมองย้อนกลับไปหารากเหง้าในชีวิตของตัวเองอีกครั้งที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเขาเดินทางกลับมา เขาจึงตัดสินใจจะเป็นพระตามรอยครอบครัว แต่ในขณะเดียวกันเขาก็มีความกังวลว่าเขาจะสามารถเป็นพระได้หรือไม่ ในเมื่อเขาแตกต่างจากพระคนอื่นตามวิถีดั้งเดิมที่คนทั่วไปเคยรู้จัก
เขาได้ปรึกษาและพูดคุยเรื่องพระธรรมต่างๆ กับพระอาวุโส ซึ่งเขาก็ได้ยินคำพูดหนึ่งจากพระอาจารย์คนนั้นว่าสิ่งสำคัญที่สุดในหลักพุทธศาสนาคือความเท่าเทียมกัน เขาจึงเริ่มคิดว่าเขาสามารถเป็นช่างแต่งหน้าที่ได้ทำงานที่รัก เป็นนักกิจกรรมขับเคลื่อนประเด็นเรื่องเพศ และเป็นพระเผยแพร่ศาสนาไปพร้อมๆ กันได้โดยที่ยังได้เป็นตัวของตัวเองไว้ได้เช่นเดิม เขาจึงทำสามสิ่งนี้ไปพร้อมกันอย่างมุ่งมั่น ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้ว่านี่เป็นภารกิจสำคัญของเขาที่จะบอกให้ผู้คนรู้ว่าคนเราสามารถเป็นตัวของเราเองและความเฉพาะตัวของคนเราคือความพิเศษซึ่งแต่ละคนสามารถเฉลิมฉลองไปกับมันได้
“การแต่งหน้าให้กับผู้คนเป็นวิธีของฉันที่จะทำให้พวกเขารู้สึกมีพลัง รู้สึกถึงความสง่างามในตนเอง มันคือหลักสำคัญแบบเดียวกันกับที่พระพุทธศาสนาทำ ฉันอยากเป็นกำลังใจให้กับผู้คน ให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขามีคุณค่า”
ครั้งหนึ่งเขาจึงเคยโพสต์ลงอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “สาระสำคัญของการเป็นพระไม่ได้หมายถึงว่าต้องเดินตามธรรมเนียม แต่มันขึ้นอยู่กับตัวฉันว่าฉันจะนิยามและปฏิบัติมันอย่างไร ก็เหมือนกับที่เขาว่า ‘คุณแม่ที่สมบูรณ์แบบ’ น่ะไม่มีอยู่จริง แต่พวกเราจะเป็นตัวเองอย่างสร้างสรรค์ด้วยวิธีไหนก็ได้ ถ้าฉันเป็นคนกล้าหาญ ฉันก็สามารถบันดาลใจให้กับคนอื่นที่อยากจะเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริงได้เหมือนกัน ฉันอยากสร้างสุขด้วยสิ่งนี้นะ”
ปัจจุบันนี้เขายังคงทำหน้าที่ทั้งการเป็นพระและเมกอัพอาร์ตทิสต์ไปพร้อมกันด้วยดีทั้งสองทาง แต่นอกเหนือไปจากการทำสองสิ่งอันสำคัญนั้น เขายังคงไม่เคยหยุดผลักดันเรื่องความหลากหลายทางเพศและความเท่าเทียมทางเพศด้วยการทำสื่อและคอนเทนต์ต่างๆ เพื่อเผยแพร่บนโลกออนไลน์เพื่อให้ความรู้และเปลี่ยนมุมมองของสังคมที่ติดลบกับเรื่องราวเหล่านี้ ใครที่สนใจทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นก็สามารถติดตามได้ที่อินสตาแกรม kodomakeup ได้เลย
Cover Photo Courtesy: kodomakeup