คำว่า ‘Real Size Beauty’ กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งหลังจากเวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งล่าสุดมีสาวงามจากประเทศเนปาลมาร่วมประกวด ซึ่งเธอเป็นนางแบบพลัสไซซ์คนแรกที่สามารถคว้ามงกุฏและสายสะพายจากเนปาลมาร่วมเข้าประกวดในเวทีระดับโลกร่วมกันกับสาวงามประเทศอื่นๆ แต่กว่าที่เธอจะได้รับเสียงชื่นชมถึงความมั่นใจและก้าวเข้าสู่นางงาม Top 20 ของเวทีอันทรงเกียรตินี้ เส้นทางการเป็นนางงามของเธอก็ไม่ง่าย และเธอต้องเผชิญหน้าถึงคำวิจารณ์ด้านลบมานับร้อยเลยทีเดียว
เธอกล่าวในบทสัมภาษณ์กับ New York Post ถึงความสำเร็จที่เพิ่งเกิดขึ้นบนเวที Miss Universe ว่า “ฉันไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนปรบมือหรือให้สปอตไลต์กับฉันมากขนาดนั้น ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย ฉันแค่อยากจะเป็นตัวแทนของประเทศและเป็นตัวแทนให้กับผู้หญิงทั่วโลก นั่นแหละเป็นเป้าหมายของฉัน… ฉันมาที่นี่ด้วยใจที่อ่อนน้อม แต่เมื่อฉันขึ้นไปบนเวที ฉันได้รับเสียงปรบมือมากมาย และนั่นมันรู้สึกดีมากๆ ทั้งยังเป็นก้าวใหม่สำหรับฉันและสังคมเพื่อให้พวกเขาได้เห็นสิ่งที่แตกต่าง ได้เห็นคำว่า Real Size Beauty”
อย่างไรก็ดี เธอกล่าวว่าเธอก็ได้รับเสียงต่อต้านเช่นกัน หลายคนบอกว่า ‘เธอเหมือนปลาวาฬ’, ‘น่าเกลียดมากจนจะอ้วก’, ‘โปรโมตความอ้วนให้คนทำตามเหรอ’ บ้างก็ว่าทำไมเธอไม่ไปออกกำลังกาย แต่ความจริงแล้วพวกเขาไม่รู้อะไรกับเธอเลยว่าก่อนหน้านี้เธอมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนจนน้ำหนักขึ้น ซึ่งเหตุการณ์นั้นไม่ได้กระทบแค่กับอารมณ์ แต่ยังเป็นเรื่องร่างกาย ผิวหนัง และความมั่นใจด้วย เธอจึงมองว่าบางครั้งสังคมและผู้คนก็ใจร้ายต่อผู้อื่นมากเกินไป
“ฉันเคยคิดว่าฉันไม่ดี ไม่สวยมากพอ แต่ฉันต้องหาวิธีพิสูจน์ตัวเองว่าฉันรักตัวเองและยอมรับตัวเองได้ถึงแม้ว่านั่นจะไม่ใช่ตัวฉันในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด คือมันเกี่ยวกับความมั่นใจในผิวพรรณและยอมรับว่าตัวเองเป็นใคร ฉันจึงต้องพยายามลบความคิดด้านลบนั้นออกไปให้หมด แล้วก็เริ่มยอมรับตัวตนที่แท้จริงว่าฉันเป็นใครและรักตัวเอง”
สุดท้ายแล้วแม้ว่าเธอจะไม่ได้ครองตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สประจำปีนี้ แต่เราเชื่อว่าการปรากฏตัวอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและการสื่อสาร Real Size Beauty ของเธอน่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายทั่วโลก และเธอคือภาพตัวแทนของความงามที่หลากหลายอย่างแท้จริง