Friday, October 4, 2024

‘แอนชิลี​ สก๊อต-เคมมิส’ จากพลังของหญิงแกร่งสู่การเป็นตัวเอกในทุกบทบาทของชีวิต

อยากกำชัยในทุกบทบาททั้งในอาชีพและครอบครัว หากถาม แอนชิลี​ สก๊อต-เคมมิส เธอจะตอบว่ายาก แต่ผู้หญิงเราทำได้ ซึ่งไม่ได้มาจากขุมพลังลึกลับที่ไหน แต่เรียกร้องไว้ตรงนี้เลยว่าผู้ชายนั่นแหละที่ต้องยอมและสนับสนุนผู้หญิง 

ELLE: คุณเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ลุกขึ้นมารับบทนำในชีวิตตัวเอง ซึ่งตอนนี้เป็นปรากฏการณ์ที่พบเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ไปทั่วโลกอย่างน้อยก็ในฮอลลีวู้ดและวงการบันเทิงเกาหลี 

ANNCHILEE: “ความจริงนี้ยังไม่ซึมเข้าตัวเราเลยว่าเรามาถึงจุดนี้ สมัยเด็กไม่ใช่คนที่มีความคิดเป็นผู้นำเลย ไม่ใช่คนกล้านำเพื่อนไปทำอะไร แต่วันหนึ่งเราได้มีประสบการณ์ของคนที่เป็นผู้นำก็รู้สึกดีมาก และรู้สึกได้ถึงหน้าที่ความรับผิดชอบที่สำคัญมากๆ เราตั้งใจว่าจะเป็นต้นแบบให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้สำหรับเด็ก แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเกิดมารับบทนำ หรือบางจุดก็ไม่ได้พร้อม คนเราไม่ได้เกิดมาแล้วเก่งเลย มันคือกระบวนการ คือการเดินทาง นี่คือคีย์เวิร์ด คนเราเรียนรู้ไป ทำไป”  

ELLE: คนเรามีช่วงน้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ ไม่เสถียร ตรงนี้เป็นแรงกดดันไหมว่าเราต้องรักษารูปร่างให้เป็นแบบใดแบบหนึ่งตามใจสังคม

ANNCHILEE: “บางทีคนก็ลืมไปว่าเราอายุ 23 ยังไม่ได้โตมาก บางมุมก็เป็นคนเซนซิทีฟ บางมุมก็มั่นใจ เราว่าเราก็แค่มนุษย์คนหนึ่งที่บางวันรู้สึกไม่โอเค จิตตกได้ และการที่เราเห็นว่าอารมณ์ที่เปลี่ยนไปมาได้คือเรื่องปกติ มันเพิ่มความมั่นใจให้เราได้นะ วันนี้เราไม่มั่นใจ แต่เราจำได้ถึงความรู้สึกในวันที่เรามั่นใจ และไม่อยากรู้สึกไม่มั่นใจแล้ว เราจะมีแรงฮึด เราเคยมีวันที่เราทำได้นี่ และเราก็ไม่ได้ต้องทำตัวเข้มแข็ง แข็งแกร่งทุกวันก็ได้ ให้พื้นที่ตัวเองได้เป็นมนุษย์ปกติบ้าง ผู้หญิงต้องการต้นแบบที่มีบุคลิกแตกต่างกันไป บางคนต้องการคนที่เรียบร้อย ความฟาดไม่ใช่ตัวตนเขา ต้องมี diversity ในทุกด้าน ทั้งเรื่องเพศ รูปร่าง สีผิว แม้แต่คาแร็กเตอร์” 

ELLE: จากนักกีฬามาเข้าสู่วงการนางงาม เป็นนางแบบ และเริ่มต้นงานนักแสดง หมวกแต่ละใบของ ‘นัก’ และ ‘นาง’ ที่เราสวมมานี้ให้อะไรเราบ้าง

ANNCHILEE: “ให้ฝึกความอดทน เบื้องหลังการทำงานไม่ได้แกลมเหมือนที่ทุกคนคิด มันฝึกความอดทนเรามากๆ ทำให้เราเข้าใจเรื่องทีมเวิร์กมากขึ้น เพราะกว่าจะได้รูปออกมาสวยต้องใช้ทีมทั้งสไตลิสต์ ช่างแต่งหน้า ทำผม ช่างภาพ ช่างไฟ…โอ้! หลายคนมากๆ เราตกหลุมรักเบื้องหลังเหล่านี้ ชอบที่เราได้ทำงานร่วมกันมากกว่ารูปผลลัพธ์ที่ทุกคนเห็นเราคนเดียว แต่เรารู้ว่ารูปนี้คือทีมเวิร์ก แถมคนในวงการแฟชั่นเป็น LGBTQ และผู้หญิงเยอะมาก นี่คือแหล่งพลังบวกของเรา เคยถ่ายแบบทั้งวันที่เหนื่อยมาก มีนางแบบหลายคน ตอนรอเราก็ไปเชียร์เพื่อนหน้าเซต ทีมงานก็ช่วยกันบิลด์ เราว่าเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นจะตาย ไม่มีใครมานั่งอิจฉากัน และผู้หญิงที่มั่นใจจริงๆ จะไม่อิจฉาคนอื่นหรอก เขาจะยิ่งส่งเสริมผู้หญิงด้วยกัน” 

ELLE: ความเท่าเทียมกับการส่งเสริมพลังหญิง คิดว่าเป็นเรื่องเดียวกันหรือต่างกันอย่างไร

Annchilee: “เราคิดว่าเป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งการผลักดันเรื่องความเท่าเทียมทางเพศก็ยังไม่สำเร็จ 100% ยังเป็นกระบวนการ มีประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงเป็นเหยื่อมานานมากแล้ว พลังหญิงต้องมาพร้อมกับการส่งเสริมเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ เราจึงจะไปถึงเป้าหมายได้ ประชากรผู้หญิงมีเยอะกว่า แต่ผู้หญิงที่เป็นผู้นำมีน้อยกว่าผู้ชาย เราจะเห็นว่าผู้หญิงจะถูกจ้างงานให้เป็นเซลส์ เป็นตำแหน่งที่ต้องออกหน้าไปเจอผู้คน ส่วนหนึ่งก็เพราะรูปร่างหน้าตา เราคิดว่านี่ก็คือความไม่เท่าเทียมในอีกรูปแบบหนึ่ง ผู้หญิงมีอีกหลายมิติที่มากกว่ารูปลักษณ์ภายนอกหรือเสน่ห์ดึงดูดทางเพศ เธอไม่ได้ถูกจ้างที่สมองของเธอ แต่เธอถูกจ้างเพราะรูปร่างหน้าตา”  

ELLE: อะไรที่ควรจะต้องมีเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศและการส่งเสริมพลังหญิง

ANNCHILEE: “เราคิดว่าต้องยอมให้ผู้หญิงมีความคิดเห็นและรับฟังพวกเธอ อนุญาตและเปิดใจให้ผู้หญิงขึ้นมานำ เพราะในเรื่องการรับฟังความคิดที่แตกต่างและการมีความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชายโดยธรรมชาติ อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ”  

ELLE: ทำไมใช้คำว่ายอมหรืออนุญาตให้ผู้หญิงลุกขึ้นมานำ

ANNCHILEE: “เพราะสุดท้ายคนที่เขียนกฎหมายก็คือผู้ชาย! ถ้าผู้หญิงได้นำ สิ่งแรกที่จะเกิดประโยชน์เลยก็คือ อย่างน้อยก็ทำให้ผู้หญิงคนอื่นได้เห็นว่ามันเป็นแบบนี้ได้ อย่าง Jacinda Ardern นายกรัฐมนตรีคนที่แล้วของนิวซีแลนด์เป็นผู้หญิง เราได้เห็นจริงๆว่าประเทศอบอุ่นขึ้น คนมีความสุขขึ้น การดูแลคนอื่นคือสิ่งที่ผู้หญิงทำได้ดีกว่าผู้ชาย เกี่ยวกับการที่เราเป็นแม่และมีความอบอุ่นมากกว่า แต่เราทำได้แค่ไม่กี่ประเทศเอง”  

ELLE: ถ้าต้องเลือกระหว่างรุ่งในอาชีพกับแฮปปี้กับครอบครัว แอนจะเลือก…

ANNCHILEE: “คำว่าประสบความสำเร็จของแต่ละคนมีความหมายไม่เหมือนกัน บางคนเลือกงาน เลือกเป็นบอส แต่บางคนคือครอบครัวที่อบอุ่น ไม่มีกรอบว่าอะไรคือความสำเร็จในฐานะผู้หญิง แต่ถ้าเลือกจะทำทั้งสองก็ได้เหมือนกันนะ เราโตมาในบ้านที่แม่ทำงานเต็มเวลา และเราไม่ขาดความอบอุ่น กลับจะทำให้เรามีความเข้าใจด้วยซ้ำว่าผู้หญิงมีหน้าที่การงานที่ดีและมีครอบครัวที่ดีได้ และได้เห็นว่าพ่อก็คอยซัพพอร์ตแม่ด้วย เราเลยรู้สึกมาตลอดว่าถ้ามีฝันหรือมีสิ่งที่อยากจะเป็น ผู้หญิงเราเป็นได้”  

Text: Suphakdipa Poolsap
Photographer: Wasu Sukatocharoenkul
Fashion Editor: Jantima Jansawadmethakul
Make-up: Phuwadon Dechphrom
Hair: Yajinta Audomkittichod
Assistant Stylist: Pongsathon Kongkawai
Assistant Photographer: Similan Prangprasert, Annop Dawwaset, Aphisit Kiamkhunthod
Fashion Coordinator: Petcharaporn Sornkrang

Latest Posts

Don't Miss

Stay in touch

To be updated with all the latest news, offers and special announcements.