ต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีทองที่เหล่าคอหนังได้ฟังข่าวดีกันแบบไม่มีหยุดพักเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนๆ ที่คิดถึงกลิ่นอายของภาพยนตร์ในช่วงยุค 1990s ถึงช่วงต้นปี 2000s เพราะหลากหลายเรื่องได้ออกมาประกาศสานต่อเรื่องราวในภาคต่อหลังจากห่างหายไปกว่า 20 ปี รวมถึงภาพยนตร์คอเมดี้ที่นำเสนอเรื่องราวของสาวๆ ราชินีแห่งวงการหนังคลาสสิก ตั้งแต่ The Devil Wears Prada, The Princess Diaries, Legally Blonde ไปจนถึง Clueless! มีอะไรน่าติดตามบ้าง จะต่อยอดจากต้นฉบับที่คุ้นเคยอย่างไร แอลได้สรุปมาให้ทุกคนแล้ว
The Devil Wears Prada 2
นิตยสาร ‘Runway’ ที่แสนรุ่งเรืองในอดีตนั้นจะมีชะตากรรมเป็นอย่างไรบ้าง ในยุคที่วงการสื่อสิ่งพิมพ์เริ่มก้าวเข้าสู่จุดตกต่ำ? ประเดิมกันด้วยภาพยนตร์ขวัญใจสายแฟอย่าง The Devil Wears Prada ที่บอกเล่าเรื่องราวในกองบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่น Runway ซึ่งหลังจากเราได้เห็นชีวิตอันหรูหราอู้ฟู่ของ Miranda Priestly (Meryl Streep) ในฐานะบรรณาธิการบริหารเมื่อ 20 ปีก่อน ในภาค 2 นี้ เธอก็ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมเผชิญหน้ากับยุคที่สิ่งพิมพ์แทบทุกอย่างถูกเปลี่ยนให้กลายมาเป็นดิจิทัล ทั้งยังต้องโคจรกลับมาเจอกับอดีตเลขาสาว Emily Charlton (Emily Blunt) ที่ปัจจุบันเป็นผู้บริหารของกลุ่มบริษัทลักชัวรีเจ้าของเงินทุนที่มิแรนด้าต้องการ นอกจากนี้ยังมีลุ้นที่จะได้เห็น Anne Hathaway กลับมารียูเนียนในบทบาท Andrea Sachs อีกด้วย

The Princess Diaries 3
หลักสูตรอบรมเจ้าหญิงเตรียมถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง กับเจ้าหญิงเจนซี? กับภาคสามของภาพยนตร์ The Princess Diaries เมื่อ Mia (Anne Hathaway) เด็กสาวธรรมดาผู้กลายมาเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทได้เติบโตจนเป็นราชินีอะมีเลียที่ปกครองอาณาจักร Genovia โดยมีรายงานข่าวว่า ในภาค 3 นี้เราอาจจะได้เห็นเจ้าหญิงที่จะมาเป็นรัชทายาทของเธอด้วยเช่นกัน! ชวนให้ติดตามเป็นอย่างยิ่งว่าหลักสูตรเจ้าหญิงที่เคยได้ผลในยุคสมัยของมีอา จะยังใช้ได้ผลกับเจ้าหญิงเจนซีคคนใหม่นี้หรือไม่ โดยทีมผู้สร้างเผยว่าเตรียมจะสานต่อเสน่ห์ของหนังนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังอำนาจของผู้หญิง สานต่อความเชื่อที่ว่าสาวๆ สามารถทำได้ทุกสิ่ง

Clueless The Series
จะเป็นอย่างไรหากภาพยนตร์ที่ส่งอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ของชาว ’90s กลับมารันวงการอีกครั้ง? เตรียมตัวต้อนรับการกลับมาของ Cher Horowitz คุณหนูสุดชิกวัย 16 ปีที่ใช้ชีวิตในไฮสคูลดุจดั่งราชินี นอกจากเรื่องราวอันเปี่ยมด้วยสีสันครบรสของเหล่าวัยรุ่นที่ทำให้ผู้ชมประทับใจแล้ว แฟชั่นและจริตต่างๆ ยังหลอมรวมให้ภาพยนตร๋เรื่องนี้ขึ้นหิ้งไบเบิลในอุดมคติของวัยรุ่นยุค ’90s โดยในภาคต่อนี้จะมาในรูปแบบซีรี่ส์ ที่ Alicia Silverstone กลับมาสวมบท Cher อีกครั้ง น่าจับตาเป็นอย่างมากว่าเรื่องราวของคุณหนูคนนี้จะกลับมานำเทรนด์ใหม่ใดๆ ในยุคปัจจุบันนี้บ้าง

Legally Blonde
ปิดท้ายกันด้วยทนายสาวผมบลอนด์ Elle Woods จากซีรี่ส์ Legally Blonde ที่ไม่ได้มาพร้อมภาคต่ออย่างใครๆ เขา แต่กลับพาเราย้อนเวลาไปรู้จักกับอีกตัวตนของเธอว่า ก่อนจะมาเป็นทนายสาวสุดป๊อบผู้จบจากโรงเรียนกฎหมาย Harvard Law School ดังเช่นทุกวันนี้ Elle เองก็เคยเป็นเด็กมัธยมธรรมดาทั่วๆ ไปที่ต้องเผชิญหน้ากับทั้งเรื่องราวของรักแรก ใจสลาย ไปจนถึงสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทั้งหลายไม่ต่างจากสาวยุค ’90s คนอื่นๆ โดยในภาคแยกนี้ ได้ Lexi Minetree มาสวมบทบาท Elle นั่นเอง

การกลับมาของภาพยนตร์เหล่านี้ นอกจากจะตอกย้ำความนิยมที่ไม่มีเสื่อมคลายแล้ว ยังตอกย้ำว่าเรื่องราวที่นำโดยเหล่าตัวละครหญิง (Women Led) นั้นยังน่าสนใจจะหยิบยกมาปัดฝุ่นใหม่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การ Empowering นั้นมีทุกหย่อมหญ้าและมีภาพยนตร์ผู้หญิงมากมายผุดขึ้นมาทุบ Box Office ไม่หยุดพัก ยิ่งไปกว่านี้ เรื่องราวของภาคต่อยังเล่นกับความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่เกิดขึ้นในระหว่างห่างหายกันไป ยิ่งทำให้ชวนจับตาว่าจะมีบริบทใดบ้างที่ปรับไปตามสังคมปัจจุบัน ขณะที่คงเสน่ห์ดั้งเดิมของต้นฉบับที่แฟนๆ ตกหลุมรักเอาไว้